สังคมไทยกำลังเดินมาถึงจุดวิกฤต! นี่เป็นคำพูดที่คนไทยเองใช้สรุปสภาพของสังคมไทยในปัจจุบัน
ทุกวันนี้สังคมไทยอยู่กันแบบครอบครัวเดี่ยวจะเรียกว่าเป็นสังคมขาดความอบอุ่นก็คงไม่ผิดนัก เยาวชนถูกเลี้ยงดูด้วยเงิน เติบโตมากับสังคมแบบวัตถุนิยม
ขณะที่ผู้ใหญ่ซึ่งเป็นแบบอย่างแก่เยาชนกำลังตั้งหน้าตั้งตาแข่งขันกันหาเงิน
โดยมิได้เอาใจใส่สังคมหรือแม้แต่คนในครอบครัวเลย
สังคมไทยกลายเป็นสังคมที่อยู่แบบตัวใครตัวมัน เด็ก ๆ โดยเฉพาะวัยรุ่นถูกปล่อยให้อยู่แต่กับกลุ่มเพื่อน รวมกลุ่มกันทำสิ่งที่ไร้สาระ มีความเชื่อและค่านิยมที่ผิด ๆ จนเลยเถิดถึงขั้นทำในสิ่งที่ผิดพลาดทั้งโดยตั้งใจและโดยไม่ตั้งใจ
คำถามที่หลายคนอดคิดไม่ได้ หลังจากที่ได้ติดตามข่าวจากสื่อต่าง ๆ คือ
เกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย
นับวันจะมีแต่ข่าวที่แสดงถึงความรุนแรง
ความเสื่อมโทรมทางศีลธรรมมากขึ้นเรื่อย ๆ
แก๊งค์วัยรุ่นไล่ฆ่ากันกลางถนน
ชายหนุ่มฆ่าแฟนสาวที่บอกเลิก
หญิงสาวถูกฆ่าข่มขืน
โจรปล้นฆ่าแท็กซี่
พ่อข่มขืนลูกโดยที่แม่รับรู้หรือไม่รู้
ชายแก่หลอกลวงเด็กสาวหรือแม้แต่เด็กชาย
ข่าวที่เกิดขึ้นเหล่านี้ได้ผ่านการรับรู้แล้วก็ถูกลืมไปตามกาลเวลา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกวันนี้คนในสังคมกำลังชาชินกับความรุนแรง
ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากใครคนใดคนหนึ่งหรือรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง หากแต่เป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพราะปัญหาการขาดคุณธรรม
จริยธรรมของบุคคลส่งผลให้เกิดปัญหาสังคมจนกลายเป็นปัญหาบ้านเมือง และกลายเป็นปัญหาของสังคม หลาย ๆ
คนเน้นไปถึงการแก้กฎหมายให้มีบทลงโทษที่หนักขึ้น
เพื่อที่จะให้ผู้ที่จะกระทำผิดเกรงกลัว
มันอาจจะช่วยแก้ปัญหาได้ส่วนหนึ่งแต่เป็นทางแก้ที่อาจไม่ตรงจุดนัก
เพราะถึงแม้ว่าจะแก้กฎหมายให้มีบทลงโทษที่รุนแรงกว่านี้สักกี่เท่า
ก็คงไม่อาจขจัดความรุนแรงในสังคมให้หมดไปได้ แต่หากคนในสังคมมีคุณธรรมมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจิตสำนึก การทำความดี
ศีลธรรม จริยธรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่จะทำให้สังคมไทยน่าอยู่ขึ้น เสียงสะท้อนจากองค์กรต่าง ๆ
ในสังคมมองว่าปัญหาทางด้านสังคมเกิดจากความล้มเหลวด้านการจัดการศึกษา ดังนั้น
การแก้ไขปัญหาหรือภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นในสังคมไทยที่เกิดจากบุคลากรขาดคุณธรรม จริยธรรม
จึงต้องสร้างสมดุลทางด้านคุณธรรม
จริยธรรมให้แก่บุคคลในสังคมโดยกระบวนการศึกษา
ซึ่งปรากฏให้เห็นจากกฎหมายหรือระเบียบที่สำคัญดังต่อไปนี้
1. รัฐธรรมนูญ
2. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
3. ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ
การออกกฎหมายเพื่อใช้กับเยาวชนที่กระทำผิด เช่น
นำตัวไปบำบัดทางจิต
บำเพ็ญประโยชน์
รณรงค์เลิกของมึนเมาและสิ่งเสพติด
ควบคุมความประพฤติ
ห้ามเข้าสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืน
เป็นต้น
นอกจากนี้คณะกรรมาธิการการศึกษาส่งเสริมให้มีการรับเด็กที่มีคุณธรรม จริยธรรม
เป็นโควตาพิเศษ
และเอาเรื่องของคุณธรรมมาเป็นคะแนนส่วนหนึ่งในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ทั้งบทลงโทษและการสนับสนุนส่งเสริมนี้แสดงให้เห็นถึงการพยายามปลูกฝังในเรื่องของคุณธรรม จริยธรรมให้กับเด็กและเยาวชน
ขณะเดียวกันก็ยังเปิดโอกาสให้คนที่ทำผิดได้มีโอกาสกลับตัว
มหาวิทยาลัยทักษิณก็ให้ความสำคัญของนโยบายการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมในสังคมไทย
จึงได้จัดทำโครงการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยทักษิณประเภทรับตรง วิธีพิเศษ
โครงการส่งเสริมนักเรียนคุณธรรม
จริยธรรมดีเด่น
และประพฤติตนเป็นประโยชน์แก่สังคม
มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสหรือช่องทางให้แก่นักเรียนที่มีคุณธรรม จริยธรรมดีเด่นและประพฤติตนเป็นประโยชน์แก่สังคมที่มีผลการเรียนในระดับที่มหาวิทยาลัยกำหนดได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยทักษิณ โดยเริ่มรับในปีการศึกษา 2551
ซึ่งผลการรับมีผู้ยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษา
68 คน
อย่างน้อยโครงการนี้ก็ทำให้มหาวิทยาลัยทักษิณมีผู้ที่มีความประพฤติดีเข้าศึกษามากขึ้น เป็นส่วนส่งเสริมและจูงใจให้นักเรียนที่มีคุณธรรมและจริยธรรม
มีกำลังใจในการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อไป อีกทั้งเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชนคนอื่น
ๆ
ให้เล็งเห็นประโยชน์ของการประพฤติตนเป็นคนดี มีคุณธรรม
จริยธรรม นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้มีการจัดการเรียนการสอนสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม
ทั้งการสอนโดยสอดแทรกเนื้อหาหัวข้อคุณธรรม
จริยธรรม หรือหลักสูตรให้มีรายวิชาที่สอนคุณธรรม จริยธรรมโดยตรง หรือการจัดกิจกรรมเสริมคุณธรรม จริยธรรม
ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของเด็กและเยาวชน มีขอบข่ายครอบคลุมแนวคิดที่เกี่ยวกับการพัฒนาความคิด ความเชื่อ
ความรู้สึกและพฤติกรรม
ตามกรอบของค่านิยม จารีต ประเพณี
คุณธรรม ศีลธรรมตามหลักศาสนา มาตรฐาน
กฎเกณฑ์ และข้อบังคับต่าง ๆ
ในสังคม ตลอดจนสภาพที่อยากให้เป็นทั้งในระดับบุคคลคือเด็กและเยาวชน และในระดับสังคม และประเทศชาติ
มาตรฐานการศึกษาชาติกำหนดคุณลักษณะที่ดีของคนไทยที่พึงประสงค์ คือ
คุณธรรมและจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลเมืองโลก โดยคนไทยต้องมีการดำเนินชีวิตโดยสุจริต พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.
2542 ซึ่งถือได้ว่าเป็นกฎหมายแม่ทางด้านการศึกษาของชาติได้ให้ใจความสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาบุคคลและถือว่าการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมเป็นภารกิจหลักของสถาบันการศึกษา โดยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติแห่งชาติได้กล่าวถึงการจัดการศึกษาในลักษณะของกระบวนการเรียนการสอน ในการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมเอาไว้อย่างเป็นระบบ เริ่มจากความมุ่งหมายและหลักการ แนวทางการจัดการศึกษา การจัดกระบวนการเรียนรู้ สาระสำคัญของหลักฐานและการประเมินผล
สาระที่ควรทราบของคุณธรรม จริยธรรม
คุณธรรม จริยธรรม
คือ ประมวลการประพฤติปฏิบัติที่ดีงามทั้งกาย วาจา
และจิตใจ
โดยถือประพฤติปฏิบัติเป็นนิสัยทั้งต่อตัวเอง ต่อผู้อื่น
และต่อสังคม ผู้ที่มีคุณธรรม จริยธรรม
ย่อมเป็นที่รักใคร่และเป็นที่ต้องการของบุคคล และหน่วยงานต่าง ๆ บุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรมดีงาม
มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. เป็นผู้ที่มีความพอดี ไม่ขาดไม่เกิน
ประพฤติตนสายกลาง ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป
2. เป็นผู้กระทำด้วยเจตนาดี ด้วยความบริสุทธิ์ใจ และทำไปเพื่อสิ่งที่ดีงาม ไม่ใช่ทำด้วยการถูกบังคับ หรือด้วยผลประโยชน์ใด ๆ
3. เป็นผู้ที่มีเหตุผล พอใจที่ได้ปฏิบัติต่อผู้อื่น และเน้นประโยชน์ต่อผู้อื่นเป็นสำคัญ
4. เป็นผู้ที่มุ่งสันติสุขหรือความสงบ ไม่ใช่มุ่งความสมบูรณ์พูนสุขเป็นที่ตั้ง
5. เป็นผู้ที่มีความพอ รู้จักสละสิทธิ์ทางธรรมชาติ เพื่อเห็นแก่ส่วนรวม และปฏิบัติตามข้อผูกพัน และหน้าที่ด้วยความพอเหมาะพอควร
6. เป็นผู้ที่มีนิสัยอันดีงามในการทำหน้าที่ รับผิดชอบต่อหน้าที่ และทำหน้าที่อย่างดีที่สุด
7. เป็นผู้ที่สามารถควบคุมแรงกระตุ้นและความยากต่าง
ๆ เอาไว้ได้ด้วยเหตุผล
8. เป็นผู้ที่ปฏิบัติตามกฎหรือมาตรฐานทางจริยธรรมได้เหมาะสมกับกาลเทศะอยู่เสมอ
แนวทางการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม
ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีผู้เสนอแนวคิด หลักการ
กลยุทธ์
หรือนวัตกรรมในการพัฒนาคุณลักษณะที่ดีมากสามารถสรุปเป็นแนวทางที่สามารถปฏิบัติได้ดังนี้
1. ให้เรียนวิชาของสังคมศาสตร์ และพฤติกรรมศาสตร์ ช่วยให้เกิดการพัฒนาจิตใจ
2. การเน้นย้ำให้ครู อาจารย์
และเพื่อนช่วยกระตุ้นความตระหนักต่อสังคมทั้งในและนอกวิชาเรียน
3. ครู
อาจารย์เป็นแบบอย่างที่ดี
4. เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดี
5. การจัดโครงการหรือกิจกรรมเสริมหลักสูตร เพื่อพัฒนาจิตใจโดยตรง
6. การสอดแทรกการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม
เข้าไปในเนื้อหา
และกระบวนการเรียนการสอนทุกวิชา
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าคุณจะเป็นคนรวย คนจนอย่างไรก็ไม่ใช่อุปสรรคในการทำความดี
เพราะคุณคงไม่สามารถอ้างว่าคุณไม่มีเงินจึงไม่ต้องทำความดีหรือมีเงินจึงสามารถทำความผิดได้ คนทุกคนสามารถช่วยกันทำให้สังคมดีขึ้นได้ เพียงแค่การยึดถือหลักคุณธรรมในการดำเนินชีวิตประจำวัน มีความรับผิดชอบต่อสังคม เอาใจใส่คนในสังคม ยกย่องคนดี
ไม่สนับสนุนคนเลว
ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไรก็ตาม จริยธรรมคือสิ่งสำคัญ เช่น
หากคุณเป็นเจ้าของร้านขายของ
คุณก็มีจริยธรรม
โดยไม่ขายเหล้า
ขายบุหรี่ให้เยาวชน
หรือถ้าคุณเป็นช่างยนต์ คุณก็ไม่รับงานดัดแปลงรถจักรยานยนต์ให้กับวัยรุ่น เจ้าของร้านเกมส์ก็ดูแลไม่อนุญาตให้นักเรียนหนีเรียนมาเล่น
เจ้าของสถานบันเทิงก็ไม่ให้เยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้าไปเที่ยว เพราะหากคุณเห็นแก่เงินที่ได้มา แต่มันกลับเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เยาวชนเหล่านี้ไปในทางที่ผิด
ตลอดจนถึงอาชีพทั่วไปในสังคม เป็นหมอก็ต้องเป็นหมอที่ดี เป็นครูก็ต้องเป็นครูที่ดี เป็นตำรวจก็ต้องเป็นตำรวจที่ดี ทุกคนควรทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด รวมทั้งยึดหลักคุณธรรมมาใช้ในชีวิตประจำวัน คิดดีทำดี
เพราะการทำความดีไม่มีวันสูญเปล่า
หากทุกคนในสังคมช่วยกัน
สิ่งดีงามก็จะเกิดขึ้น
คุณธรรม จริยธรรมก็เหมือนกับอากาศ แม้มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
ไม่สามารถจับต้องได้แต่หากขาดไปเราคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น